เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อม นายจีรพันธ์ เพชรขๅว หรือ หมอปลา เดินทางมาที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
โดย ทนายไพศาล ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบกรณีพระปลอมตัวตอนเช้าเเต่งตัวเป็นพระออกบิณฑบาต พอตอนบ่ายเปลี่ยนชุดเป็นขอ-ทาน
ทนายไพศาล กล่าวว่า มีเเม่ค้าห้างดังเเห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ร้องเรียนเข้ามาว่า เห็นพฤติกรรมของพระรูปหนึ่ง มักเข้ามาในห้างเปลี่ยนชุดเป็นฆราวาส ลักษณะเเต่งตัวคล้ายขอ-ทาน โดยเห็นการกระทำเเบบนี้มาโดยตลอด
ส่วนตอนเช้าก็เเต่งตัวเป็นพระออกบิณฑบาต เเละเมื่อตนลงไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นเรื่องจริง โดยวันนี้ที่ตนมาร้องเรียนเพื่อจะมาถามสำนักพุทธฯ
เเละสำนักงานนายกฯ ว่าจะมีเเนวทางจัดการอย่างไร ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นพระจริงหรือไม่เพราะตอนเช้าเป็นพระ ตอนบ่ายเป็นฆราวาส
ด้าน หมอปลา ได้ถามไปยัง นายวิภาค ล้อมเล็ก เจ้าพนักงานการศาสนาชำนาญงาน สำนักงานพระพุทธศาสนาว่า พอเรื่องต่างๆ เป็นข่าว ถึงจะมีการขยับ เเต่เรื่องไหนที่ไม่เป็นข่าว
อย่างเช่นพระนอกรีตถ้าพวกตนไม่ขยับตัว ก็ปล่อยให้เลอะเทอะ เเละก็พยายามเอากฎหมายเกี่ยวกับพระสงฆ์ มาเป็นตัวชี้ชัดไม่ให้พวกตนขยับตัว เเละกรณี อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ที่มีผู้เสียหายมาเเจ้งว่าถูกพระละ-เมิด
พอไปเเจ้งเจ้าคณะอำเภอ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า สุดท้ายมาร้องสื่อเเต่ปรากฏว่า พระรูปนั้นหนีไปเเล้ว เเบบนี้จะหมายความว่าอย่างไร
ทางด้าน นายวิภาค กล่าวว่า สื่อไม่ขยับตัวเเล้วสำนักพุทธไม่ทำงาน ตนมองว่ามันไม่ใช่ เพราะว่าเรื่องบางเรื่องที่เกิดขึ้นสำนักพุทธก็ไม่รู้ อย่างเรื่องที่เกิดขึ้น อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ที่มีผู้เสียหายมาเเจ้งว่าถูกพระละ-เมิด
ทางผู้เสียหายไม่ได้มาร้องที่สำนักงานพระพุทธศาสนาเเห่งชาติ เเละผู้ร้องก็ไปถอนเรื่องที่สำนักพุทธจังหวัด ตนไม่รู้ว่ามีการเจรจากันอย่างไร
จนสำนักงานพระพุทธศาสนาเเห่งชาติ เสนอเข้ามาจนดำเนินการเสร็จเรียบร้อยเเล้ว โดยพระรูปนั้นไม่รับสารภาพว่าขมขืน เเต่เขายินดีที่จะลาสิกขาเพื่อไปต่อสู้คดี
อย่างไรก็ตาม นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนามาชี้เเจง
ในเรื่องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ทางตนก็ติดตาม ส่วนเรื่องที่ยื่นใหม่วันนี้จะนำเข้าสู่กระบวนการต่อไปเพื่อตรวจสอบ
แหล่งที่มา khaosod / mumkhao
เรียบเรียงโดย baansuann.com
