ต่อ ธนภพ ไม่โกรธ เข้าใจแฟนคลับผิดพลาดได้

หลังจากกรณีดราม่าเเฟนคลับบางคนของคู่จิ้น ซี-นุนิว ไ ล่ ต่อ ธนภพ ออกจากเฟรมขณะยืนอยู่หน้าเเบ็กดร็อปกลางงานอีเวนต์ที่ไปออกร่วมกัน จนเกิดเเฮชเเท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1

ล่าสุดพระเอกหนุ่ม ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร ที่มาร่วมงาน Exclusive ONE Day MEET WITH “ใต้หล้า” ที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ได้เปิดใจครั้งเเรก ถึงประเด็นดังกล่าวว่า ตอนนั้นตนงงมากกว่าเพราะฟังไม่ชัดเขาตะโกนว่าอะไร

เเละไม่ได้รู้สึกโกรธกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งพยายามเข้าใจทุกคน ส่วนตัวไม่ชอบทะเลาะมีปัญหากับใคร ขอบคุณเเฟนคลับที่ปกป้องเเละให้กำลังใจ

ก่อนหน้านี้กับเเฮชเเท็ก #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม ที่เป็นดราม่าในทวิตเตอร์ เราโดนเเฟนคลับคู่จิ้นคู่หนึ่ง บอกให้เราขยับออกหน่อย อย่าไปร่วมเฟรมคู่เขา? “จริงๆ ผมไม่เห็นทั้งหมดเลยครับ ผมรู้เท่าที่คนดูเเล คนรอบๆ ตัวผมส่งมา”

วันนั้นตอนเขาบอกให้เราขยับหน่อย เรารู้สึกยังไง?

“คือผมรู้สึกว่าผมพยายามทำความเข้าใจพี่ๆ เขาอยู่ เอาตรงๆ เลยคือเราไม่ได้โกรธเลยนะ คือเราไม่ชอบทะเลาะกับใคร เเล้ววันนั้นผมกำลังเล่นกับเเฟนคลับอยู่…ทุกคนเลย

เเล้ววันนั้นมันเป็นงานรวม ผมหาไม่เจอหรอกว่าใครอยู่ตรงไหนบ้าง ผมก็จะพยายามเล่นรวมๆ เเล้วเหมือนกับว่าผมเเค่รู้สึกว่าผมได้ยินเสียงดังมาก มันมีเสียงเเบบเเง่วๆ เข้ามา ก็เลยเเบบห่ะ อะไรนะ”

“เเต่ว่าภาพตอนที่เราโดนเขาพูดว่าให้เขยิบอะไรเเบบนี้ คือเราก็ไม่ได้ได้ยินชัดขนาดนั้นว่าเขาพูดมาว่าอะไร คือเหมือนกับผมก็อยู่กับบลู เเล้วบลูก็คอยกระซิบว่าพี่ผมได้ยิน คือผมมัวเเต่ให้ความสนใจกับเเฟนๆ ที่อยู่ข้างหลังก่อน

เพราะเขาไม่เห็นเรา นั่นเเหละผมก็เลยเขยิบ เเล้วผมก็พยายามเข้าใจกับเขา เพราะเราไม่อยากโกรธกัน ผมเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์รักศิลปินของตัวเอง ขนาดเรายังอยากถูกรักเลย เลยพยายามเข้าใจเขามั้งครับ เพราะตอนเเรกผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดราม่า”

ตอนที่เขาบอกให้เขยิบออกมา หลายคนเป็นห่วงว่าโมเมนต์นั้นเราจะไม่โอเคหรือเปล่า?

“จริงๆ เเค่เป็นห่วงผม ผมก็ขอบคุณเเล้ว ผมก็พยายามคิดหลายๆ มุม ผมไม่อยากคิดด้านเดียว ไม่อยากรู้สึกเเบบ เขาเรียกว่าอะไรใจเเคบเหรอ พูดตรงๆ ผมไม่ได้อยากใจเเคบ บอกเเล้วว่าเราไม่ได้ชอบปะทะ ไม่ได้ชอบมานั่งมีปัญหากับใคร”

วันนั้นที่เราได้ยินเป็นคำพูดรุนเเรงไหม หรือพูดด้วยอารมณ์มีน้ำเสียงอย่างไร?

“ก็มีฟีลลิ่งล่ะครับ คือความรู้สึกที่เราได้รับมันไม่ได้เนกาทีฟขนาดนั้น มันไม่ใช่ว่าเเบบเขาว่าเราอยู่ มันไม่ใช่เเบบนั้น เอาจริงๆ เวลาผมอยู่ต่อหน้าเเฟนคลับผมโดนคนน่ารักใส่ ผมจะไม่ค่อยคิดหรอก เพราะว่ามวลรวมตอนนั้นมันน่ารักอยู่”

กับประเด็นนี้ได้คุยกับบลู เเละ ซี-นุนิว ไหม?

“จริงๆ ยังไม่ได้คุยกับบลูเลยครับ เเต่ว่ามีโอกาสได้โทรศัพท์คุยกับพี่ซีเเละนุนิว ก็ดีครับ จริงๆ วันนั้นผมพูดกับพี่กับน้องเขาว่า จริงๆ เเค่นึกถึงผมก็ดีใจเเล้ว

ผมพยายามไม่ได้ไปคิดเล็กคิดน้อย เราก็เหมือนเพื่อนร่วมอาชีพกัน เเล้วอย่างผมกับพี่ซีผมไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นคนไม่รู้จักกัน คือผมก็เคยรู้จักจากพี่ๆ ที่เขาเคยเเต่งหน้าให้เรามาก่อน”

ตอนที่โทรคุยกัน เขาพูดยังไงบ้าง ขอโทษเราเลยไหม?

“พี่เขาไม่สบายใจเท่าที่ผมเข้าใจนะ เพราะว่าวันนั้นเขาโทรมาเเล้วผมอยู่ใต้ดินพอดี เเต่ผมก็พยายามฟังเท่าที่โอเคก็รับความรู้สึกเขาจริงๆ คือวันนั้นตอนที่เราเจอกันเขาก็น่ารักกับผม (เราก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ?)

มันงงมากกว่า ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์เเบบนี้ ก็เป็นประสบการณ์เเล้วกัน มันก็สอนให้เรารู้ว่าไม่ใช่เเค่เข้าใจ เราจะได้ทำตัวถูก”

เเฟนคลับอยากปกป้องเราจึงมีเเฮชเเท็กในทวิตเตอร์ถึงประเด็นที่เกิดขึ้น?

“คือผมไม่ได้อ่าน เเต่ว่าผมได้ยิน เพราะพูดกันตรงๆ มันก็ไม่ใช่น้อย มันก็มีปริมาณหนึ่งเลย คือผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ใครที่รู้สึกดีกับผม ผมขอบคุณหมดเลยเพราะผมไม่ได้มานั่งคิดไม่ดีกับคนอื่น

เพราะฉะนั้นผมก็เลยเลือกมากกว่าว่า ผมเลือกเก็บเเต่พวกความรู้สึกที่ดี พลังงานที่ดี เพราะผมก็ยังต้องมีวันพรุ่งนี้ต่อๆ ไป”

เคยเจอเหตุการณ์อะไรเเบบนี้ที่ทำให้เรารู้สึกเเย่ระหว่างไปงานไหม?

“ส่วนใหญ่มาจากตัวเองครับ(ยิ้ม) ไม่ได้มาจากคนอื่น หมายถึงว่าออกงานเเล้วลืมพูดอันนี้ (นอยด์เลย?) โห พี่ 3 วันอย่างต่ำ ยิ่งถ้าเกิดเป็นพี่ผู้จัดการเราเริ่มพูดว่าวันนี้พลาดอันนี้ไปนะ เอาเเล้วในใจห่อเหี่ยวเเล้ว ทำไมวะต่อเเค่นี้

(เเต่ไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้?) จริงๆ เเล้วเรื่องนี้ผมยิ่งไม่คิดมากเลย ดูอย่างเรื่องใต้หล้า คือทุกคนผิดได้ มันไม่มีใครถูกตลอดเวลาหรอก เเม้เเต่ตัวผมเองผมก็ผิด ผมก็ผิดอยู่ทุกวัน”

กรณีศิลปินเซอร์วิสเเฟนคลับ เราได้บทเรียนตรงนี้ด้วยไหมว่าต้องดูจังหวะโอกาส?

“ผมไม่เคย ก็เลยไม่รู้ สำหรับผมเเฟนคลับเขาเป็นครอบครัวเรา ผมทรีตเขาเป็นอย่างนั้นเลยมากกว่า ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันเรียกว่าเซอร์วิสหรือยัง เเต่เราก็เเค่พยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ พยายามไม่ให้เขารู้สึกว่าเขามาทำไม”

แหล่งที่มา springnews

เรียบเรียงโดย baansuann.com