วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวของคุณแม่สายซัพพอร์ต โดยเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 65 ที่ ชั้น 1 SHOW DC นักเเสดงสาว ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ได้เดินทางไปร่วมงานเเถลงข่าวจัดงานประกวด MISS&MISTER SUPRANATIONAL THAILAND ปี 2022 ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงการซัพพอร์ตลูกทั้งสองคน น้องเเพรว-น้องภูมิ ให้เป็นนักกีฬา
สถานการณ์ โ ค วิ ด ของครอบครัวเราเป็นยังไงบ้าง?
“ก็น่าจะเหมือนทุกคน ยังไงดีอ่ะ ถือว่าลุยกันไปเนอะ เรารู้ว่ามันไม่ได้เดินบนทางเรียบ เเต่เราก็ต้องเดิน เหมือนรถที่มันติด ก็ต้องเผื่อเวลา เผื่อใจ อย่างกองถ่ายก็จะเผื่อมีคนที่ติด เผื่อพัก เผื่อเบรก เผื่อกักตัวก็ยังกลับมาถ่ายทัน ตอนนี้ทุกอย่างต้องเผื่อหมด มางานก็ต้องเผื่อเวลาตรวจ ATK ก็คือว่านิวนอร์มัลคำเเรก คำเดิมเลย ใช้ชีวิตในเเบบใหม่ ให้เป็นปกติ”
เรื่องคิวงานเราจัดสรรยังไง?
“เราไม่เผื่อ เพราะเราไม่เป็น ส่วนใหญ่มันก็จะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่เเล้ว ไม่มีทางที่จะรู้ก่อน”
สำหรับลูกๆ ที่ต้องไปโรงเรียน มีการดูเเลยังไง?
“นี่ก็ปิดเทอมเเล้ว น่าจะช่วยลดปัญหาตรงนี้ไปได้ เเต่กลับกลายเป็นว่าปัญหาที่โรงเรียนไม่เยอะนะ ยิ่งเด็กๆ เขามีการปรับตัวได้สูงกว่าผู้ใหญ่อยู่เเล้ว เขาก็ทำได้ดี ห้องของลูกสาวกับลูกชายก็ไม่มีใครติดเลย ผ่านไปได้ด้วยดี เเค่ถ้ามันต้องมีก็คือเข้าใจมัน ก็ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เพราะโรคภัยไข้เจ็บมันไม่มีใครเลี่ยงได้อยู่เเล้ว”
โรงเรียนเข้มงวดขนาดไหน?
“ตั้งกฎเหมือนโรงเรียนทั่วๆ ไปเลยค่ะ ปกติเลย”
ลูกๆ มีกลัวหรือกังวลบ้างไหม?
“ไม่ค่ะ เข้าใจ ว่าเราต้องระวังมากขึ้น ไม่ได้เหมือนเดิมซะทีเดียว เเต่เราสามารถทำความเข้าใจ ทำให้ความใหม่นี้มันเป็นปกติให้ได้ มันไม่สะดวกเท่าเดิม เเต่ในเมื่อเราไม่อยากอยู่บ้าน เราอยากไปโรงเรียน ถ้ามีบางอย่างที่มันต้องปรับ มันก็เป็นธรรมดา”
มีกำชับลูกไหม ว่าเล่นกับเพื่อนอย่าถอดเเมสก์?
“ก็ไม่นะ เขาทราบอยู่เเล้ว กำชับมากๆ ก็เครียดกันเปล่าๆ เราเป็นคนไม่ย้ำ เพราะเขารู้อยู่เเล้วว่าต้องทำ ถ้าเราฝึกให้เขารู้จักหน้าที่ตั้งเเต่ยังไม่มี โ ค วิ ด ฉะนั้นอันนี้มันก็เป็นหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นมา”
เป็นนักกีฬาเเล้วทั้งสองคน?
“เราเเค่พาไปนั่นเเหละ เเต่ส่วนใหญ่มันเป็นกิจกรรมของเขาอยู่เเล้ว เรามีหน้าที่จ่ายตังค์ พาไปซ้อม ซัพพอร์ตจิตใจ เหมือนลมใต้ปีก มีหน้าที่ซัพพอร์ต พอมีเหตุการณ์พิเศษ เช่นมีการเเข่งขัน เราก็เชียร์อัพเเล้วถ้าผลมันไม่ได้เป็นที่พอใจ ก็ดูเเลซัพพอร์ต หรือยินดีด้วยไปตามสภาพ มันก็เป็นเรื่องราวหนึ่งในชีวิตเเหละ”
จุดเริ่มต้นทำไมถึงไปเล่นไอซ์สเก็ต?
“รู้เเค่ว่าเขามาขอเล่น เออเอาจริงๆ ไม่เคยถามเหมือนกัน ว่าทำไมถึงอยากเล่น เดี๋ยวไว้ลองถามดู เเต่ก็เกิดจากที่เขาขอลอง ขอเล่น มันก็ค่อยๆ ไปเรื่อยๆ จากลองเล่นๆ จนมีโค้ช เเล้วก็ลองซ้อมมากขึ้นดู ลองเเข่งขันดู มันค่อยๆ ขยับมา ก็เกือบ 3 ปีเเล้ว ที่ลองเริ่มตั้งเเต่วันเเรก”
ตั้งใจเล่นเป็นนักกีฬาทีมชาติเลยไหม?
“ก็ยังไม่ได้ถามนะ เเต่เชื่อว่ามันเป็นเป้าหมายของนักกีฬาทุกท่านอยู่เเล้ว เพียงเเต่ว่าลองทำเเค่วันนี้ก่อน เหมือนเราอยู่อนุบาล ถามว่าอยากจบ ม.6 ไหม ทุกคนอยากจบเเน่นอน เเต่ก็ต้องทำอนุบาลให้ดีก่อน สอบให้ผ่านก่อน เเล้วก็ต้องไปประถม ไปมัธยม ถ้าไม่ผ่านมันก็ไป ม.6 ไม่ได้ มันก็ไปทีละขั้น เเต่ก็มีเป้าหมายนั้นอยู่ในใจ เพราะมันทางเดียวกันอยู่เเล้ว”
ในมุมของคุณเเม่ เรียกว่าสำเร็จไปหนึ่งขั้นเเล้วไหม?
“ไม่คิดว่าเป็นเรื่องสำเร็จหรือไม่สำเร็จ มันเป็นเเค่กิจกรรมหนึ่งในชีวิต มันเป็นเเค่เรื่องราวหนึ่ง เเต่ในเรื่องราว มันได้เรียน ได้เล่นอย่างสนุก ระหว่างเล่นได้เจอเพื่อน ได้หกล้ม ได้ลุกขึ้นมา
ในระหว่างเเข่งก็อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อย่างรอบนี้เเพรวไม่เป็นอย่างที่คิดเลย ตอนซ้อมเขาทำได้ดีกว่า ทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องสติเเตก มันไม่ใช่เเค่เรื่องความสำเร็จ มันเป็นเนื้อหาเนื้อหาหนึ่ง ถ้าเป็นละครที่มี 10 อีพี อันนี้ก็คือ 1 อีพี มันเป็นหนึ่งในสตอรี่ เเต่เเค่ตอนทำมันต้องโคตรตั้งใจ ต้องซ้อม ต้องฝึก”
กีฬาขี่ม้ายังเล่นอยู่ไหม?
“จริงๆ เขาก็อยากจะไปขี่บ้าง เเต่พอมันขึ้นเลเวลที่ต้องลงรายละเอียด เเล้วไอซ์สเก็ตก็ต้องการลงรายละเอียด เพราะฉะนั้นขี่ม้าก็ถูกลดเวลาลงไปด้วย พอรวมกัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด เราก็จะไม่ไหว ก็ต้องเอาสักอย่าง ไม่งั้นทั้งสองอย่างจะไม่ได้ลงรายละเอียด เอาไว้เขาโตมีบัดเจ็ต เเล้วยังอยากขี่ม้าอยู่ ก็เดี๋ยวค่อยไปต่อได้”
แหล่งที่มา khaosod
เรียบเรียงโดย baansuann.com
