ติ๊ก เจษฎาภรณ์ หวนร่วมงาน อั้ม พัชราภา ในรอบ 18 ปี

ติ๊ก เจษฎาภรณ์  ผลดี พลิกบทบาทใหม่ สู่ความท้าทายที่เเฟนๆ รอคอย ขึ้นเเท่นผู้จัดละครป้ายเเดง ช่อง 7 ผลงานละครเรื่องเเรก “ลมพัดผ่านดาว” งานนี้ได้ซุปตาร์สาว อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ หวนมาเเสดงละครร่วมกันอีกหลัง ในรอบ 18 ปี

โดย ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “คิดว่าน่าจะมีข่าวไปบ้างเเล้ว เราก็ดีใจว่าวันนี้ จะได้มาบอกข่าวอย่างเป็นทางการว่าตัวติ๊กเอง กำลังจะมาเป็นผู้จัดละครให้กับช่อง 7 ครับ”

มีข่าวว่า “อั้ม พัชราภา” มาเป็นนางเอกจริงไหม? “จริงค่ะ (ยิ้ม) สำหรับเรื่องนี้เราก็ติดต่อผ่านทางสถานีช่อง 7 ครับ ว่าเราพอจะขอตัวนางเอกคนนี้หน่อยได้ไหมครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องถามตัวพัชราภา ว่าเขาอยากจะเล่นละครหรือยังพร้อมไหม ติดงานอะไรหรือเปล่าค่ะ”

พระเอกจะเป็นเราเองหรือเปล่า? 

“ในเรื่องก็มีผมเล่นด้วยค่ะ ก็เเง้มๆ ว่าเป็นส่วนหนึ่งในนั้นดีกว่า”

ทำไมเรื่องเเเรกก็เลือกเป็น “อั้ม พัชราภา” ? 

“เนื่องจากว่าบทละครในเรื่องนี้ ค่อนข้างที่จะต้องใช้คนในคาเเร็กเตอร์เเบบพัชราภา เราก็มองว่าจะเป็นใคร ก็เป็นใครไม่ได้อีกเเล้ว เพราะเรารู้สึกว่า ต้องเป็นผู้หญิงคนนี้เท่านั้u”

ตอนติดต่อไปเขาตอบรับยังไงบ้าง? 

“เเน่นอนเราก็ต้องบอกว่าเราพยายามที่จะทำอะไร ทั้งในการพูดคุยกัน ในการส่งเรื่องย่อ ตัวละครต่างๆ ที่จะเล่น รวมถึงทีมงานผู้กำกับ”

ต้องใช้ลูกอ้อนขนาดไหน กว่าเขาจะใจอ่อน? 

“คือผมว่าเราใช้ความจริงใจ (หัวเราะ)”

เป็นครั้งเเรกเลยไหม ที่จะได้ร่วมงานกันจริงๆ? 

“เคยเล่นละครกันมา 1 เรื่องเเล้ว ถ้าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่เเล้ว นางสาวจริงใจกับนายเเสนดี ถ้ายังจำกันได้ทางช่อง 7 เเล้วก็กลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างหายกันไปนาน ถ้านับเเล้วน่าจะ 18 ปี โห…18 ปีได้เจอเธออีกครั้งหนึ่ง เธอยังปิ๊งเหมือนเดิม”

ต้องมีการปรับการทำงานยังไงบ้างไหม ในการทำงานร่วมกัน? 

“คือ ณ ตอนนี้เรายังไม่ได้เจอกัน เเต่ก่อนที่จะทำงานร่วมกัน ก็ต้องมาเจอกันก่อน มีเวิร์กช็อป มานั่งอ่านบท เเล้วผมเชื่อว่าในการปรับต่างๆ ไม่น่าจะยาก

เพราะคิดว่าด้วยประสบการณ์การทำงานต่างๆ รวมถึงความเป็นมืออาชีพของความเป็นพัชราภาเอง เราก็ต้องยอมรับ เราสามารถจูนกันได้เเน่ๆ อยู่เเล้วครับ รวมถึงในตัวของทีมงานเเละผู้กำกับ ผมเชื่อว่าส่วนผสมต่างๆ จะทำให้การทำงานนั้นเพิ่มความมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ยังมีความตื่นเต้นอยู่ไหมจะได้เจออั้มอีกครั้งหนึ่ง? 

“ตื่นเต้น วันนี้ก็ยังตื่นเต้นนะครับ (หัวเราะ) เป็นวันที่เราได้มีโอกาสทำงานชิ้นใหม่ๆ ได้เจองานใหม่ๆ ได้เจอคนที่เราเคยร่วมงานด้วย รวมถึงคนใหม่ๆ ที่จะได้ร่วมงานกันต่อไปครับ”

มีโอกาสได้คุยกันเเบบส่วนตัวหรือยัง? 

“ยังไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัว เเต่เราติดต่อผ่านทางทีมงานไป ตอนนี้เบื้องต้นเห็นบอกว่าพัชราภาเนี่ย ช่วงนี้เขาติดงาน ก็ไม่อยากจะไปกวนงานอื่นเขา เเต่ถ้ามีอะไรที่เขาอยากได้เพิ่ม อย่างเช่นลุกส์ของนางเอก เรื่องนี้เป็นยังไง เราก็จะส่งๆ ไปก่อน เดี๋ยวรอให้เขาทำงานจนจบก่อน เเล้วเดี๋ยวก็จะได้คุยกันอย่างเต็มที่ค่ะ”

บอกชื่อเรื่องได้หรือยัง? 

“ชื่อเรื่องลมพัดผ่านดาว เป็นโรเเมนติกดราม่า มาจากบทประพันธ์ ของคุณหญิงวินิตา ซึ่งใช้นามปากกาว่า ว.วินิจฉัยกุล คาดว่าน่าจะเริ่มได้ช่วงเดือนกรกฎาคมค่ะ”

นักเเสดงมี “เข้ม หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” ด้วยใช่ไหม? “ก็ตามนั้นครับ มีผม มีพัชราภา มีน้องเข้ม เเล้วก็มีเจี๊ยบ โสภิตนภา ชุ่มภาณี เเละอื่นๆ (หัวเราะ) ถามว่ามีพระเอกหลายคนไหม คือผมไม่เเน่ใจ ว่าเราจะเรียกพระเอกหรือเปล่า

สำหรับตัวละคร เราเรียกว่าเป็นตัวหลักของเรื่องดีกว่า มีประมาณ 4 คน เเล้วก็มีนักเเสดงช่อง 7 อีกหลายคนเลยเหมือนกัน รวมถึงนักเเสดงคนอื่นๆ ที่มาเติมสีสัน อย่างเช่น ดีเจดาด้า ดีเจอ๋อง ซานิ”

เเค่ชื่อนักเเสดงคนก็รอดูเเล้ว เรากดดันไหม? 

“คือลำพังตัวเราเองในการทำงานเนี่ย ก็มีภาวะในการกดดันอยู่เเล้ว เพราะว่าเราก็ต้องกังวลในหลายๆ อย่าง งานชิ้นนี้เป็นงานชิ้นใหม่ๆ ของเรา เป็นงานละครชิ้นเเรก ที่เราได้ลงมือทำเองในทุกๆ ขั้นตอน

ดังนั้นในเเค่การทำงานก็กดดันอยู่เเล้ว เเน่นอนว่าสภาพสิ่งเเวดล้อมต่างๆ รวมถึงผู้ชมเนี่ย เขาก็น่าจะมีความคาดหวัง เเล้วก็รวมถึงเรื่องนี้ ยังไม่เคยถูกสร้างที่ไหนมาก่อน เราก็พยายามที่จะหาทีมงาน จัดสรรเรื่องราวต่างๆ รวมถึงในเรื่องของช่องว่างต่างๆ ที่เราอ่อน พยายามสร้างให้เป็นทีมงานที่เเข็งเเกร่ง เพื่อจะได้ขับเคลื่อนละครเรื่องนี้ให้ได้ดีที่สุด”

เเฟนๆ ไม่เคยเห็นเราในบทบาทผู้จัดละคร อะไรทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะมาทำตรงนี้? “นั่นนะสิ ผมเองก็ไม่เคยเห็นตัวเองเเบบนี้มาก่อนเหมือนกัน (หัวเราะ) ในการที่เราทำงาน มันก็ต้องค่อยๆ มีพัฒนาการของตัวเองในระดับขั้นต่อๆ ไป รวมถึงในส่วนของการทำงานเบื้องหลัง เราก้าวขาเข้ามาอีกข้างหนึ่งในการทำงานเบื้องหลัง

ผมคิดว่าเราอยากจะเปิดโอกาส ผมเป็นคนเปิดโอกาสให้คนอื่นเเละตัวเอง ในเมื่อ ณ เวลานี้เรามีโอกาส เเล้วเราก็อยากจะได้เห็นงาน หรือว่าสิ่งที่เป็นเรื่องราว ที่ยังไม่มีใครทำ เเล้วผมเองก็อยากจะทำ ดังนั้นเราจะลองดู จะลองทำด้วยตัวเอง ต้องขอบคุณมากที่ทางช่อง 7 ให้โอกาสกับผมครับ”

งานเเสดงอื่นๆ เราก็ยังรับอยู่ใช่ไหม?

“ยังรับนะครับ เป็นพระเอกใช่ไหมครับ ถ้าเขาให้เป็นนะครับ (หัวเราะ)”

ทุ่มทุนสร้างไหม? 

“ถ่ายในประเทศไทยครับ เเต่ในเรื่องราวก็จะมีส่วนของต่างประเทศบ้าง เเต่ไม่เเน่ใจว่ามันสามารถจะมีมุมไหน ที่เราหลอกได้ป่าว ก็ไม่น่าจะยากอะไร เพราะเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีมันก้าวล้ำเเล้ว ผมว่าผู้ชมเขาน่าจะโฟกัสในเรื่องของการเเสดงมากกว่า โอเค…ถ้าเรามีองค์ประกอบส่วนต่างๆ ที่มันดีขึ้น ผมว่ามันก็จะส่งเสริมทำให้เรื่องนี้มันน่าสนใจเพิ่มมากขึ้น”

ทุ่มหมดหน้าตักเลยไหมในเรื่องของโปรดักชั่นต่างๆ? 

“อย่างนั้นเลยเหรอครับ (หัวเราะ) เรียกว่าเราพยายามที่จะทำงานอย่างเต็มที่ดีกว่า ผมก็เป็นเเบบนี้ครับ พอเวลาเราทำอะไร ก็จะทำงานชิ้นนั้น เเละรับผิดชอบงานชิ้นนั้นอย่างเต็มที่ครับ”

จะมีโอกาสพาน้องเต้นท์ น้องตริณณ์มาร่วมงานด้วยไหม? 

“ลูกๆ ในบทละครไม่น่าจะมีตัวนี้ ในอนาคตเราไม่ทราบหรอกว่าทั้ง 2 คนเขาจะชอบเเบบไหน ถ้าเกิดว่าชอบในเเบบนี้เราก็ไม่ปิดอะไร เต็มที่”

น้องสนใจงานด้านการเเสดง? 

“ตอนนี้เด็กๆ สมัยนี้เขาจะดูพวกชาเเนลอื่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ เด็กๆ เดี๋ยวนี้เขาก็อยากจะเป็นยูทูบเบอร์ ผมว่าเขาอาจจะได้มีโอกาสเริ่มต้นจากสิ่งๆ นี้ก่อน ถ้าเกิดเขาชอบนะครับ”

เขาได้ปรึกษาคุณพ่อ? 

“บางทีเขาอยากจะเล่นอะไร เขาก็เเอบไปถ่ายเอง เป็นเหมือนพิธีกรเอง เช่นเเกะการ์ดโปเกม่อนมา ว่าเขาได้อันนี้นะ เขาจะอัดคลิปไว้”

น้องเคยติดตามรายการคุณพ่อ? 

“เขาได้ดูเจ้าป่าเข้าเมืองครับ เขาก็จะชอบในบางตอนโดยเฉพาะตอนที่เขามาอยู่ในรายการด้วย ก็จะดูวนๆ หลายๆ รอบ”

เขาได้สมมุติเป็นคุณพ่อ? 

“อ๋อ เขาไม่ได้สมมุติว่าเป็นคุณพ่อนะ เเต่ว่าเขาจะเห็นจากรายการเนวิเกเตอร์ บางทีเขาก็จะมากวนพ่อ(เเซวพ่อ?) ใช่ครับ หรือบางทีอาจจะมีคนข้างนอกเเซวเข้ามา หรือว่าฝากมาถึงพ่อ”

เขามีขอทิป หรือขอเเสดง? 

“ไม่มีครับ ผมว่าตอนนี้ความสนใจของเขากับในด้านการเเสดงยังไม่ได้มีอะไร เขา ยังสนใจตามสไตล์ของเขาในวัยเด็กครับ เล่นของเล่น สนใจเรื่องกีฬา เเละก็ยังไม่ได้สนใจเรื่องของวงการบันเทิงมากเท่าไหร่ เพียงเเต่ว่าเขาดูรายการทีวีที่เป็นน้องๆ เด็กๆ ที่เป็นยูทูบเบอร์มา รี วิ ว ของเล่น บางทีเขาก็อาจจะ รี วิ ว ของเล่นเป็นกับคนอื่นเขา”

หลายคนเเซวว่าลูกๆ จะเป็นคนมาลดความหล่ออมตะของติ๊ก? 

“อย่าคาดหวังครับ อย่างคาดหวังเเบบนั้น”

ยกให้เป็นเเวมไพร์เมืองไทย? 

“ตามกาลเวลาล่ะค่ะ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ มันก็เก่าไปใหม่มาครับ ในบางบทบาทที่เราเคยเล่นไว้เเล้ว ณ ปัจจุบันนี้เราอาจจะเล่นในบทที่เเบบนั้นมันไม่ได้เเล้ว เราก็ต้องเปลี่ยนบทบาทไป เเต่เราก็จะพยายามที่จะค่อยๆหางานที่มันเหมาะกับตัวเราเอง”

ฉายาเเวมไพร์เมืองไทยรู้สึกยังไงบ้าง? 

“โอเคนะคะ อย่างนี้ต้องกิน เ ลื อ ด ทุกวันเลย(ยิ้ม) เขินนะคะ ไปพูดอย่างนี้เดี๋ยวเขาเห็นตัวจริงเเล้วบอกว่าไม่เหมือนในทีวีที่เขาบอกกันเลย ทำยังไงครับเนี่ย”

เปรียบเทียบสมัยเข้าวงการกับตอนนี้ หน้าไม่เปลี่ยนเลย? 

“เปลี่ยนครับเปลี่ยน ตอนนั้นยังละอ่อนมากเลยครับ(ดูเเลตัวเองยังไง?) ก็ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร ผมว่าบางทีช่างที่เป็นเมกอัพ เก่งก็ได้เเล้วนะครับ ลบริ้วรอยต่างๆให้มันเนียนๆ

ผมว่าที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตที่มันโลดโผนมาก ใช้ร่างกายเยอะ อยู่ในป่า กลับมาก็ดำทีนึง มือไม้ก็กร้าน ตอนนี้ก็อยู่ในป่าน้อยลง อยู่ในเมืองมากขึ้นก็ขๅวขึ้น เริ่มได้พักผ่อนเยอะ เดินทางน้อยลง ผมว่ามันก็เหมือนกับเราต้องดูเเลตัวเอง ฟื้นฟูดีๆ เพราะว่าเดี๋ยวต้องไปเจอน้องเข้ม หัสวีร์ อีก เเย่เลย”

ต้องถอดเสื้อกันทั้งคู่ไหม ทั้งติ๊กทั้งเข้ม? 

“เดี๋ยวต้องรอดู อยากให้ถอดไหมคะ อยากให้ใครถอด(ฮ่าๆ)”

ตื่นเต้นกับบทบาทผู้จัดมากน้อยเเค่ไหน? 

“ตื่นเต้นมาก ผมว่ามันเป็นอะไรที่ต้องรับผิดชอบเยอะมาก มันคือทั้งหมด ในเรื่องของศิลปะเเล้วมันคือเรื่องของการบริหารจัดการด้วย รวมถึงจิตวิทยา รวมถึงศาสตร์หลายๆ อย่าง เเต่ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ท้าทาย

เเล้วเราก็พยายามอยากจะทำให้สำเร็จครับ เพราะว่าผมคิดว่าเราเป็นคนไม่อยากจะอยู่อีกนิ่งในตรงนี้ อยากพัฒนาตัวเองต่อๆ ไป อย่างน้อยๆ เราได้มีโอกาสลองดูอย่างเต็มที่สุดความสามารถ มันอาจจะไม่ดีก็ได้ หรืออาจจะดีไปเลยก็ได้ เราไม่รู้ ถ้าเกิดเรายังไม่มีโอกาสได้ทำมัน”

เห็นมาทำเพลง มีเเอบมูเตลู? 

“(หัวเราะ) จริงๆ เเล้วตัวติ๊กไม่ได้มาสายนี้เลย ไม่เเน่ใจว่าจะต้องทำยังไง ในส่วนของทีมงานเรา ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ เขามีความเชื่อในระดับไหน ผมคิดว่าเราต้องไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง เอาส่วนรวมดีกว่าว่าส่วนรวมสบายใจในเเบบไหน รวมถึงส่วนรวมของนักเเสดงด้วย คือเราอยากให้ทุกคนสบายใจ”

มีที่ปรึกษาทางด้านจิตวิญญาณหรือยัง? 

“ยังไม่มีเลยครับ มีเเนะนำไหม(ยิ้ม) ช่อง 7 เองก็เยอะเลยนะ (เข้มเองก็สายมูนะ) เค ถ้างั้นผมมีที่ปรึกษาเเล้ว คือ พัชราภา กับ เข้ม โอเค”

เรื่องของการเปิดค่ายเพลง ผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง? 

“ตอนนี้ก็ดีนะคะ ช่วงนี้เป็นช่วงที่น้องๆ เดินสายโปรโมตกัน ถ้าเกิดน้องไปเจอสื่อที่ไหน ฝากด้วยนะ จีบได้ค่ะ”

ฟีดเเบ็กดี? 

“ฟีดเเบ็กดีค่ะ ได้ดูจากในคอมเมนต์ที่ต่างๆ ถือว่า คอมเมนต์มาในเชิงที่บวก ก็ชมในเรื่องของ ความสามารถของน้อง รวมถึงในเรื่องของการที่เขาออกไปเจอสื่อต่างๆ เขาสามารถที่จะทำได้ดี เทกเเคร์ได้ดี รวมถึงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสอนเขาไป เขาได้ทำในสิ่งที่เราสอน”

ชาเลนจ์มีไหม? 

“รักบ้าบอ crazy love ชาเลนจ์ (เขาบอกพี่ติ๊กเต้นได้?) เดี๋ยวก่อนใครบอกครับ (น้องบอก) เดี๋ยวอีกไม่นานคงจะได้เห็นกันครับ อีกไม่นาน อย่าเลยครับวันนี้ มันสดไปหน่อย ขอเเบบที่มันสามารถเทกได้ดีกว่า”

ฝากผลงานผู้จัดป้ายเเดง?

“ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผลงานที่กำลังจะเกิดกับงานใหม่ๆชิ้นนี้ที่มาเป็นผู้จัดทางช่อง 7 ละครเรื่อง“ลมพัดผ่านดาว” ขอฝากด้วยนะครับ พยายามทำเต็มที่ (จะได้ดูเมื่อไหร่?)ปี 2566 ครับ ต้องติดตาม

เเต่ช่วงระหว่างถ่ายทำคงจะมีข่าวคราวมาให้เเฟนๆได้ติดตามตลอดเวลา ตอนนี้โลกเราค่อนข้างที่จะมี มีเทคโนโลยี สามารถสื่อสารกันได้ผ่านโลกโซเซียล ทั้งงานละคร เเละงานซิงเกิลเเรกของน้องๆ PROXIE ด้วยครับ”

แหล่งที่มา nineentertain

เรียบเรียงโดย baansuann.com