ตาวัย 83 ปี ชาวอ่างทอง ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง รับวันลอยกระทง เจ้าหน้าที่เผยสาเหตุ

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวสุดสะเทือนใจของตาวัย 83 ปี ชาวอ่างทอง โดยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2563 พ.ต.ท.ราชันย์ เพ็ชรรุจิ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน เหตุเกิดบริเวณบ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 1 ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง

หลังได้รับแจ้งจึงประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.บ้านแห และ อบต.คลองวัว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โดยมีนายสัมพันธ์ ทองลิ่ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแห เดินทางไปให้การช่วยเหลืออำนวยการในการควบคุมเพลิง

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง เพลิงได้โหมกระหน่ำลุกไหม้อย่างรุนแรง ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้ เพื่อไม่ให้ลุกลามไปบ้านที่อยู่ข้างเคียง เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาวมีกระแสลมพัดแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเจอกับอุปสรรคในการดับเพลิง

เพราะกระแสไฟฟ้าที่อยู่ภายในบ้านยังไม่ถูกตัดไฟ ซึ่งระหว่างที่ฉีดน้ำดับเพลิงจะมีประกายไฟจากสายไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา จนชาวบ้านต้องใช้ใบมีดตัดกิ่งไม้ตัดสายไปที่ส่งไปที่บ้าน และสามารถฉีดน้ำทำการควบคุมเพลิงเอาไว้ได้โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที เพลิงจึงสงบ

ซึ่งหลังจากการสอบถาม นายงาม เกลี้ยงล่ำ อายุ 83 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า บ้านหลังดังกล่าวตนเองอาศัยอยู่กับลูกหลาน 4 ชีวิต ก่อนเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระนอกบ้านกันหมด เหลือตนเองเพียงคนเดียวกำลังนอนเปลอยู่ข้างบนบ้านอยู่ ๆ ได้ยินเสียงคล้ายรະเบิดมาทางด้านหลังของตนเอง เมื่อหันไปมองเห็นเพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

ตนเองจึงตะโกนให้เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือนำออกจากบ้านรอดได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งตนเองเป็นโรคหัวใจอยู่ตกใจจนหัวใจแทบวาย

ทางนางวาสนา สิทธิเดช อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/2 หมู่ที่ 1 ตำบลคลองวัว เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ยินเสียงคล้ายรະเบิดและได้กลิ่นเหมือนมีใครมาย่างปลา เมื่อหันไปมองตามกลิ่นก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นเพลิงลุกไหม้บ้านของตาอย่างรวดเร็ว จึงได้วิ่งเข้าไปช่วยเหลือนำออกมาจากบ้านได้ทัน

แล้วจึงได้วิ่งมาช่วยคนป่วຍที่นอนติดเตียงอยู่ในบ้าน นำมาพักรวมกันไว้ที่บ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กัน เนื่องจากเกรงว่าเพลิงจะลุกลามมาไหม้บ้านของตนเองอีกหลังหนึ่ง เดชะบุญที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทัน คาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพและทำการตรวจสอบรายละเอียด พร้อมทำการสอบปากคำเจ้าของบ้านและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาทำการตรวจสอบ ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

แหล่งที่มา: naewna

เรียบเรียงโดย baansuann.com