“ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประณามคนระดมเงินช่วยป้า ที่ทำร้ายเด็ก มีหนึ่งเดียวในโลก

วันนี้เราจะมาติดตามกรณีที่ ณวัฒน์ ประณามคนระดมเงินช่วยคนผิด หลังจากเหตุการณ์ป้ารายหนึ่งทำร้ายเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.3 อายุ 15 ปี ที่สถานีรถไฟอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากไม่พอใจที่นักเรียนหญิงไม่ยืนเคารพธงชาติ

จนถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยคุณป้าคนดังกล่าวก็ได้ถูกดำเนินคดี จากนั้นทางเพจเฟซบุ๊ก เชียร์ลุง ช่วยกันระดมทุนเพื่อช่วยจ่ายค่าปรับ และได้ปิดยอดการช่วยเหลือที่ 18,200 บาท ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง

และล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า กรณีที่มีการตบเด็ก ตนมองว่าไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย เพราะเป็นเรื่องใหญ่มากที่คนเราใช้อารมณ์ตัวเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เหมือนลางบอกเหตุว่าสถานการณ์ในประเทศไทยจะยิ่งแรงขึ้น ประเทศไทยเราเริ่มไปกันใหญ่แล้ว

มีการโอนเงินไปช่วยคนทำผิดกฎหมาย มันแปลกเกินไป แบบนี้เงินก็ซื้อได้ทุกอย่าง เหมือนคดีดังที่ขับรถชนคนดับ แล้วไม่ผิด อีกทั้งหากเป็นแบบนี้อาจทำให้คนคิดว่าถ้าไปตบใคร เดี๋ยวก็มีคนช่วย คนก็จะทำกันต่อไปเรื่อย ๆ

ตนบอกตรง ๆ เลยว่า คงมีแต่ที่นี่ที่เดียวที่เป็นแบบนี้ ตนมองว่าเด็กต่างหากที่ถูกกระทำ ทำไมไม่โอนเงินไปช่วยเด็ก เท่ากับตอนนี้คนไทยคิดไม่ออกแล้วว่าอะไรควรหรือไม่ควร หากตนแนะนำได้ อยากบอกว่าคุณป้าไม่ควรรับเงิน

นายณวัฒน์ ระบุว่า นี่เป็นเมืองพุทธที่อเมซิ่งที่สุด ตนเดินทางมาทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนทำร้ายกันจนสิ้นใจ หรือทำอะไรรุนแรงเท่าประเทศไทยอีกแล้ว เห็นตนพูดแบบนี้ เดี๋ยวก็จะมีคนมาไล่ว่าทำไมไม่ไปอยู่ประเทศอื่น ตนบอกเลยว่า ตามกฎหมายคุณไม่สามารถไล่ใครออกจากประเทศได้”

ทั้งนี้ ตนมาพูดหลายครั้ง ทั้งที่ตนจะอยู่เฉยก็ได้ ชีวิตตนก็สุขสบายอยู่แล้ว เพราะตนรู้สึกว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต ซึ่งมากขึ้นกว่าหลายปีที่ผ่านมา จนไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ใครตอบตนได้บ้างว่าเหตุการณ์นี้จะยุติลงด้วยวิธีอะไร

ถ้าไม่มีใครอ่อนข้อให้ใคร สุดท้ายนี้ ตนฝากไปบอกถึงคนที่ชอบขู่ว่าจะทำร้ายคนอื่น ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม การพูดแบบนี้สามารถแจ้งความได้ทันที

อีกทั้งการทำแบบนี้ตนมองว่าไม่แฟร์ คิดจะไปตบคนที่ทำให้คุณไม่พอใจ มันเห็นแก่ตัวเกินไป ทุกคนมีความคิด มีชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ใช่จะต้องมาอยู่เบื้องล่างคุณ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ทุกคนเท่ากัน ถ้าใครที่คิดแบบนี้ตนจะไม่ให้ความเคารพอีกต่อไป

แหล่งที่มา: amarintv

เรียบเรียงโดย baansuann.com