วันนี้เรามีเรื่องราวดี ๆ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 63 มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคน หลังผู้สื่อข่าว ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีชาวบ้านอยู่ครอบครัวหนึ่งได้รับเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย ในปัจจุบันได้มาขออาศัยในกระท่อมร้างในสวนปาล์มท้อวที่หมู่ 12 ต โมคลาน อ ท่าศาลา จ นครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบนายวิวัฒน์ พรหมมาศ อายุ 53 ปี นางปทิดาตา เต่าทอง อายุ 51 ปี ภรรยา ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 38/2 หมู่ 6 ต วังจั่น อ โคกสำโรง จ ลพบุรี โดยทั้งสองสามีภรรยาใด้มาอาศัยในพื้นที่ อ.ท่าศาลา มานานกว่า 20 กว่าปี และมีฐานะจนเคยเช่าบ้านอยู่อาศัยใน ต.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
ต่อมาเมื่อ 3-4 เดือนออกจากบ้านเช่าเดิมเพื่อไปหาบ้านเชาแห่งใหม่ จนได้พบกับนายสำเริง เกิดทอง เจ้าของสวนปาล์มใจบุญ เมื่อทราบว่าสองสามีภรรยาไม่มีที่อยู่อาศัย ฐานะยากจนจึงให้ทั้งสองมาอาศัย ชั่วคราวในกระท่อมสวนปาล์มที่ หมู่ 12 ต โมคลาน อ ท่าศาลา จ นครศรีธรรมราชมาจนถึงปัจจุบันนี้
นายวิวัฒน์ พรหมมาศ อายุ 53 ปี กล่าวว่าในปัจจุบันตนอาศัยชั่วคราวในกระท่อมสวนปาล์มของนายสำเริง เกิดทอง เจ้าของสวนปาล์มใจบุญที่ให้ตนอยู่อาศัยชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก ในขณะที่นางนัทที รัตนศรีสุข เพื่อนบ้านทราบว่าในชีวิตนี้ตนและภรรยาอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง จึงบอกว่าให้ตนทั้งสองสร้างบ้านอยู่อาศัยในที่ดินของเขาไปตลอดชีวิต
ตนจึงทำงานอย่างตั้งใจพร้อมพยายามเก็บเงินซื้อวัสดุ อุกาณณ์การก่อสร้าง ทั้งอิฐ หิน ดิน ทราย เหล็ก กระเบื้องเก่า และไม้เก่าไว้คาดว่าครบถ้วนพอจะสร้างบ้านหลังใหม่ได้แล้ว แบบง่าย ๆ กว่า 6 x 8 เมตร 9 เสา ยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตรเพื่อหนีน้ำตามแบบเหมือนของเพื่อนบ้านสร้างบ้านไปก่อนหน้านี้
แต่ในช่วงมาตรการป้องกัน จึงไม่สามารถประกอบอาชีพหาเงินมาจ้างช่างก่อสร้างบ้านได้ จะลงมือก่อสร้างเองตนก็ไม่มีความรู้ทางช่างก่อสร้างและไม่มีเครื่องมือก่อสร้างเลย ซึ่งคาดว่าต้องใช้เงินประมาณ 35,000 บาท จึงอยากวิงวอนหน่วยงานจิตอาสาหรือทหารช่างจากกองทัพภาคที่ 4 มาช่วยก่อสร้างบ้านให้ตนด้วย
ในขณะที่นางนัทที รัตนศรีสุข อายุ 55 ปี อยู่ที่ 18/3 ม 6 ต โพธิ์ทอง อ ท่าศาลา จ นครศรีธรรมราช ใด้กล่าวว่า แม้บ้านของตนจะอยู่ต่างหมู่บ้าน ต่างตำบลกัน แต่บ้านตนอยู่ใกล้กับกระท่อมในสวนปาล์ม หมู่ 12 ต.โมคลาน ที่สองสามีภรรยาอาศัย อยู่ ตนเห็นทั้งสองเป็นคนขยันขันแข็งทำงานรับจ้างทั่วไปและมีความซื่อสัตย์เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้านโดยทั่วไป
โดยฝ่ายสามียังใช้เวลาว่างไปเปิดแผงให้เช่าพระเครื่องอยู่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช พยายามเก็บเงินซื้อซื้อวัสดุ อุปกรณ์ อิฐ หิน ดิน ทราย เหล็ก กระเบื้องเก่า และ ไม้เก่ามาเก็บไว้ และตั้งความหวังจะสร้างบ้านเป็นของตัวเอง
ซึ่งตนพร้อมที่จะให้สองสามีภรรยาสร้างบ้านอยู่อาศัยใด้ตลอดชีวิต แต่ไม่ใด้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ เพื่อความสบายใจจะให้ผู้ใหญ่บ้านร่างสัญญาขึ้นมาว่าตนยินยอมให้ทั้งสองปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินของตนไปตลอดชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านพร้อมจะช่วยเหลือในการประกอบอาหารจัดเลี้ยงช่างที่มาช่วยก่อสร้างบ้านให้สองสามีภรรยาอย่างเต็มที่ พร้อมจะช่วยกันออกแรงช่วยเหลือสร้างบ้านให้สองสามีภรรยาด้วย โดยในเบื้องต้นทางศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. จะประสานหน่วยงานจิตอาสามาช่วยก่อสร้างบ้านให้สองสามีภรรยาอย่างเร่งด่วน
เนื่องจากกำลังจะเข้าฤดูฝนหากล่าช้าเกิดฝนตกหนักน้ำท่วมในพื้นที่สองสามีภรรยาจะได้รัยบความเดือดร้อนลำบากเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือเรื่องงบประมาณในการก่อสร้างบ้านให้สองสามีภรรยาสามารถประสานงานติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์และประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนนครศรีธรรมราช
แหล่งที่มา: สยามนิวส์
เรียบเรียงโดย baansuann.com
