ชายไม่มีบ้าน ชอบพูดว่า “มีเงินในบัญชี 5 แสน” ไม่มีใครเชื่อ สุดท้ายเห็นจะ ๆ มีเงินเป็นล้าน

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวจากสื่อต่างประเทศ เป็นเรื่องราวชีวิตของชายไร้บ้าน ชาวเมืองเถาหยวน เมืองทางเหนือของเกาะไต้หวัน ชายไร้บ้านผู้นี้อายุ 56 ปี มีปัญหาด้านประสาท มักชอบมีเรื่องกับคนบริเวณนั้นประจำ และมักชอบพูดว่า

“ตนเองมีเงินสะสมประจำในบัญชี 500,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 535,400 บาท)” เมื่อมูลนิธีแห่งความหวงใยทราบเรื่องก็เข้าไป ถามไถ่ด้วยความห่วงใย จึงทำให้ทราบเบื้องหลังแห่งความเศร้าของเขา

ชายไร้บ้านคนนี้ มักชอบก่อความวุ่นวายให้คนแถวนั้นเสมอ เนื่องจากมีสติที่ไม่สมประกอบ ชอบวิ่งไปเอาอาหารบนโต๊ะในศาลเจ้าใกล้เคียงมากิน ซึ่งของเหล่านั้นที่เป็นของที่ประชาชนนำมาไหว้ เขามักจะทำลายข้าวของสาธารณะ หรือแม้กระทั่งคนดีที่เอาอาหารให้เขากินก็ถูกทำร้ายจนกระดูหัก

บางคนก็เนื้อตัวชำไปหมด เรียกได้ว่าวีรกรรมของเขานั้นมีมากมาย ชื่อเสียงเสียๆก็มีมากเช่นกัน ทำให้คนแถวนั้นต้องไปร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลเพื่อส่งชายคนนี้ไปโรงพยาบาล

ในตอนแรกชายคนนี้ไม่ยอมพูดอะไรเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ไปเยี่ยมเขา ได้แต่เพ่งมองไปที่เจ้าหน้าที่ ราวกับว่ากำลังสื่อทางในต่อกัน เจ้าหน้าที่พยายามชวนพูดคุยด้วย แต่เขาก็หลับตาแล้วทำมือไล่เจ้าหน้าที่ เมื่อเวลาผ่านไปสักครู่ เขาก็เลิกขว้างปาข้าวของที่เจ้าหน้าที่เอามาให้เขา

ต่อมาเพื่อนข้างเตียงก็เล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า ชายคนนี้มักพูดถึงเงินในบัญชีของเขา แต่ทว่าบัตรประชาชนและเอกสารอื่นๆของเขาหายไปหมดแล้ว จะไปเบิกเงินยังไงละ?

แน่นอนว่าไม่มีคนเชื่อคำพูดของเขา แต่มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งช่วยเขาทำเรื่องขอเอกสารสำคัญหลายอย่างเกี่ยวกับเขาใหม่หมด และพาเขาไปยังธนาคารของที่ทำการไปรษณีย์ ในตอนแรกเขาดูลุกลี้ลุกลนมาก นั่งไม่นิ่ง เพราะรู้สึกไม่ปลอดภัຍ และเมื่อทำสมุดบัญชีเงินฝากให้เขาเสร็จ เขาก็นั่งจ้องสมุดนั้นอยู่นาน

ในตอนนั้นเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร เห็นชายคนนี้จ้องอยู่นานจึงขออนุญาตดูสมุดบัญชีเงินฝากของเขา และวินาทีนั้นเองก็ทำให้เจ้าหน้าที่ตกใจมาก เพราะเขาไม่คิดว่าสิ่งที่ชายสติไม่สมประกอบพูดเกี่ยวกับเงินนั้นจะเป็นความจริง เปิดออกมาดูเงินฝากในสมุดบัญชีมีมากถึง 1.8 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.92 ล้าน)

ชายคนนี้ก็เริ่มมีสติ และค่อยๆ นึกถึงเรื่องราวในอดีตว่า ตนเองไม่สามารถติดต่อพ่อและพี่น้องคนอื่นๆ ได้ เขานึกอยู่นานเกี่ยวกับเบอร์โทรศัพท์ที่พอจะจำได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ช่วยเขาโทรไปยังเบอร์ที่เขานึกออก ปลายทางที่รับสายคือคุณพ่อของชายคนนี้ ซึ่งมีอาย 85 ปี เสียงสั่นๆ มาก พร้อมกับบอกว่า “ลูกชายคนนี้ของเขาหายออกจากบ้านไปนานมากแล้ว”

ที่แท้ เมื่อ 6 ปีก่อน กระเป๋าสตางค์ของชายคนนี้โดนขโมย และข้างในกระเป๋าก็มีเงินสด 600,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 640,000 บาท) และเอกสารสำคัญอื่นๆ หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ได้รับกระทบกระเทือนทางจิตใจ ทำให้จำอะไรไม่ได้ สติเริ่มมีปัญหา

และการที่เจ้าหน้าที่รับเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล ทำให้อาการของเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะ ความรักและความห่วงใยที่เจ้าหน้าที่และคนในโรงพยาบาลมอบให้เขา ทำให้เขาสัมผัสได้และอาการค่อยๆดีขึ้น จนสามารถจำอะไรได้บ้างแล้ว เมื่อพูดถึงพ่อของเขา ชายคนนี้ก็น้ำตาไหล เสียงสั่นแล้วพูดว่า “ผมอยากกลับบ้าน ที่บ้านยังมีพ่อ ได้ไหม?”

เมื่อเล่ามาถึงจุดนี้เจ้าหน้าที่ก็น้ำตาไหลเช่นกัน ผู้คนต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า

“ชีวิตของชายคนนี้เปล่าเปลี่ยว เดียวดายมานานหลายปี โชคดีจริงๆ ที่เขาได้มาเจอคนดี”

“ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ยอมช่วยเหลือเขา และขอบคุณที่ยอมเชื่อในสิ่งที่เขาพูด”

“ขอบคุณทุกคนที่ไม่ยอมแพ้ในการช่วยตามหาบ้านให้ชายคนนี้”

ตอนนี้ชายคนนี้ไม่ใช่คนไร้บ้านอีกต่อไป เพราะว่าตอนนี้เขาได้กลับบ้านไปใช้ชีวิตร่วมกับคนในครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นี่เป็นเพียงเรื่องราวของชายไร้บ้านส่วนหนึ่งเท่านั้u ยังมีคนไร้บ้านอีกมากมายที่ยังต้องการความช่วยเหลือ และเจ้าหน้าที่ภาครัฐก็จะพยายามช่วยเหลือคนเหล่านี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่เหล่านี้ช่วยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา ที่แท้แล้วคนไร้บ้านจำนวนมาก ได้ใช่ว่าไม่อยากกลับบ้าน

แต่อาจเพราะหลายปัจจัยทำให้ไม่สามารถกลับบ้านได้ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนสามารถกลับไปสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของครอบครัวอีกครั้งนะคะ

แหล่งที่มา : itislooker / หมื่นพันเหตุผล

เรียบเรียงโดย baansuann.com