เตือนภัย สาวอ้างเป็นเจ้าของรีสอร์ท ฉกเงินกฐินสร้างอุโบสถ หนีลอยนวล

ชาวบ้านจังหวัดตรัง โร่แจ้งความ หลังโดน ฉกเงิน ทอดกฐินกว่าแสนหลบหนีลอยนวล โดยชาวบ้านเล่าว่า หญิงสาวคนดังกล่าวแต่งกายดูดี ทำทีมาช่วยนับเงินก่อนยัดเงินเข้ากระเป๋าแล้วหนีหาย

วันที่ 7 ต.ค.63 จากกรณีที่มีเฟซบุ๊คชื่อ วัดล่องน้ำ ทองขวัญถุง จ.ตรัง ได้โพสต์ข้อความ ว่า “ใครรู้จักผู้หญิงเสื้อขๅวคนนี้ช่วยแจ้งเบาะแสที เขๅยักยอกเงินกฐินวัดควนซางไปแสนบวกๆ .ยังตามจับตัวไม่ได้ ช่วยเเชร์กันทีตะวัดเดือดร้อน

พร้อมรูปภาพ ผู้หญิงคนนี้อายุประมาณ 50 กว่าใส่ชุดสีขๅวใส่เครื่องประดับทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหู นาฬิกาข้อมือ สร้อยข้อมืออะไรเรียกว่าแต่งตัวดี แต่ว่าแกใส่แมส

เราไม่สามารถเห็นหน้าแกได้ชัดเจน 100% เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 มีงานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดควนซาง หมู่ที่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง จนทำให้สื่อโซเซียลต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น และเเชร์โพสต์กันเป็นจำนวนมากเพื่อเตือนภัยนั้น

ล่าสุดเช้าวันเดียวกัน ภายในศาลาโรงทานสังฆานุวัตร วัดควนซาง หมู่ที่ 9 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง พระครูเกษม สังฆานุวัตร เจ้าอาวาสวัดควนซาง พร้อมด้วยคณะกรรมการทอดกฐินและชาวบ้านกว่า 30 คน มารวมตัวร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน และแจ้งเตือนให้วัดต่างๆระมัดระวังสาวมหาภัยรายนี้

เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2563 โดยทางวัดควนซางได้จัดให้มีการทอดกฐินประจำปี 2563 เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างอุโบสถที่สร้างค้างคายังคงต้องใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท จึงจะก่อสร้างอุโบสถแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ระหว่างการจัดพิธีในช่วงของการนับเงินได้มีสาวใหญ่อายุประมาณ 50 ปี แต่งกายตามประเพณี ภูมิฐานหน้าตาดี สวมหน้ากากอนามัยเข้ามาช่วยนับเงิน ซึ่งคณะกรรมการที่นับเงินไม่เอะใจหรือสงสัย เพราะคิดว่าเป็นญาติกับคณะกรรมการ จึงปล่อยให้ช่วยนับเงิน

หลังจากที่นับเงินเกือบจะแล้วเสร็จ สาวแสบมิจฉาชีพได้จังหวะเก็บซองใส่กระเป๋าหลบหนีลอยนวล และทางคณะกรรมการทอดกฐินได้มีการแจ้งความที่ สภ.อ.รัษฎา ไปด้วยแล้ว

น.ส.จิราภรณ์ พุ่งมณีสกุล อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 232 ม.2 ต.คลองปาง อ.รัษฎา เป็นกรรมการกฐิน บอกว่า วันที่เกิดเหตุวันที่ 4 ตุลาคม โดยเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งได้เข้ามาในวัด ได้เข้ามาอยู่ตั้งแต่เช้าตั้งแต่พี่ๆน้องๆชาวบ้านได้ช่วยกันทำกับข้าว

ปรากฏว่าในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งๆกันอยู่ พอถึงเวลารับเงิน กดเงิน ใส่ซอง และแจ้งยอดเงิน ปรากฏว่ามีกรรมการผู้สูงอายุนั่งอยู่ 2 คน ผู้หญิงคนนี้ก็เข้ามานั่งเลย ซึ่งในตอนนั้นทุกคนก็เข้าใจว่าเป็นลูกๆหลานๆของคนในพื้นที่ แต่ผู้หญิงคนนี้ได้บอกกับคนอื่นๆว่าเขาเป็นเจ้าของรีสอร์ทอยู่ที่ จ.ภูเก็ต

เขาสวมแมสเรียบร้อย และก็ได้มีการแลกเบอร์กับผู้ที่อยู่ในวัดด้วย ทำให้เราได้ติดตามต่อว่าเป็นใคร ก็ปรากฏว่าพอสืบไปมาเหตุการณ์ต่อเนื่องมีคนแจ้งข่าวมาว่าผู้หญิงคนนี้ประพฤติไม่เหมาะสมหลายอย่าง ซึ่งเงินที่หายไปประมาณ 1 แสนกว่าบาท

ทั้งนี้อยากฝากเตือนทุกๆวัด เพราะว่ามิจฉาชีพไม่ได้มีป้ายแปะไว้บอกเราว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ ลักษณะการแต่งตัวดี หน้าตาเสื้อผ้าหน้าผมดูดีมาก จึงอยากให้ทุกๆวัดได้ระมัดระวัง ซึ่งเขาจะเลือกหยิบเอาไปแต่แบงค์พัน

ทั้งหมดเป็นเงินหนึ่งแสนสามหมื่นกว่าบาท ซึ่งในวันนั้นชาวบ้านมากันเยอะมาก และตอนนี้ก็อยากให้จับตัวคนร้ายให้ได้และนำเงินมาถวายคืนให้กับวัดเพราะเป็นเงินที่ชาวบ้านได้อนุโมทนาให้กับวัดมา และทางเราก็ยังสร้างอุโบสถศาลายังไม่แล้วเสร็จ

 

แหล่งที่มา : msn.com, nationtv.tv

เรียบเรียงโดย : baansuann.com