อนุทิน เผย ครม. มีมติเห็นชอบ จองซื้อวัคซีนโควิด 26 ล้านโดส เพื่อให้คนไทย 13 ล้านคน

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา “อนุทิน” รมว.สาธารณสุข เผย ครม.มีมติเห็นชอบให้ไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 19 จากแอสตราเซนเนกาจำนวน 26 ล้านโดส เพื่อให้คนไทย 13 ล้านคน เข้าถึงวัคซีนเป็นประเทศแรก ๆ หลังวัคซีนสำเร็จ

วอนคนไทยสวมหน้ากากไว้ เพื่อเป็นเกราะป้องกันโรคก่อนที่จะได้วัคซีนมาฉีด หลังพบการ์ดเริ่มตก จากที่เคยสวมใส่ 90 % เหลือ 50 กว่า%

ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังรณรงค์ให้ประชาชนยกการ์ดสวมหน้ากากป้องกันโรคโควิด 19 ว่า

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติอนุมัติให้ประเทศไทยจองซื้อวัคซีนโควิด 19 จากบริษัทแอสตราเซนเนกา ที่ประเทศไทยมีความร่วมมือในการพัฒนา จำนวน 26 ล้านโดส วงเงิน 6,049,723,117 บาท ครอบคลุมคนไทยร้อยละ 20 ของประชากร หรือ 13 ล้านคน

ทำให้คนไทยมั่นใจอีกระดับว่า หากวัคซีนดังกล่าวสำเร็จคนไทยจะมีวัคซีนใช้ทันทีและจะเป็นประเทศลำดับแรก ๆ ที่เข้าถึงวัคซีน เนื่องจากหากไม่รีบจองซื้อ พอถึงวันที่วัคซีนสำเร็จก็อาจไม่ได้มาหรืออาจต้องจ่ายในราคาต้นทุนถึงโดสละ 20 เหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ การจองซื้อจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตมาด้วย เพื่อให้ผลิตได้เองภายในประเทศ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขนส่งและความเสียหาย ที่สำคัญวัคซีนที่สำเร็จต้องผ่านกระบวนการรับรองต่าง ๆ มีความปลอดภัຍสำหรับผู้รับวัคซีน

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ได้ เกิดจากความร่วมมือของประชาชน ซึ่งหากช่วงที่มีการระบาดแล้วคนไทยไม่ร่วมกันใส่หน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง คงเกิดการติดเชื้อมากกว่ายอดปัจจุบันที่มี 3,700 กว่าราย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คนไทยเริ่มใส่หน้ากากลดลงจาก 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 50 กว่าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งการสวมหน้ากากมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ประเทศไทยไม่เกิดการติดเชื้อ ไม่มี Super Spreader เกิดขึ้น และเป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก

กรมอนามัยจึงต้องจัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นให้คนกลับมาสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่างให้ใกล้เคียงอัตราเดิม เนื่องจากประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากการที่ประเทศต่าง ๆ ยังมีการติดเชื้อสูง

“การใส่หน้ากากถือเป็นวัคซีนที่ดีที่สุดในวันที่วัคซีนโควิด 19 ยังไม่มา และช่วยประเทศชาติอย่างมหาศาล เพราะค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วຍก็ประมาณเกือบล้านบาทต่อคน ขอให้คนไทยร่วมกันเป็นมือเป็นไม้ ช่วยกันสื่อสารให้คนรอบตัว คนในครอบครัว และเพื่อนฝูง ยังคงสวมหน้ากากกันต่อไป และทำให้เป็นค่านิยม” นายอนุทินกล่าว

แหล่งที่มา: bangkokbiznews

เรียบเรียงโดย baansuann.com