อุทาหรณ์ เหตุเซ็นค้ำประกันซื้อรถให้คนไม่รู้จัก สุดท้ายถูกยึดบ้าน

สามีไปเซ็นค้ำประกันซื้อรถให้กับเพื่อนของเพื่อน แล้วเจ้าของรถไม่ผ่อนส่งจนถูก ยึดบ้าน สำนักงานทนายคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสามารถ โพธิประสิทธิ์ อายุ 58 ปี นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม

นายสามารถ กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานดับเพลิงอยู่ที่ อบต.ท่าค้อ ได้รับการขอร้องจากผู้ใหญ่ที่นับถือกันให้ช่วยค้ำประกันการซื้อรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เทา โดยผู้เช่าซื้อคือ นายภาดา ลิมรุ่งเรือง ทำงานดี มีหลักประกัน ไม่ทำให้เสียหาย ด้วยความที่เกรงใจเลยเซ็นค้ำประกันให้กับ นายภาดา ไปเมื่อปี 2555 แต่เขาก็ขาดส่งค่างวดจนรถถูกยึด ตนและ นายภาดา ถูกฟ้องในส่วนต่างที่ขาดหายไปในตัวรถอีก 80,000 บาท

กระทั่งมาเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนถึงกับช็อก เมื่อมีทนายชื่อตั้มขับรถมาที่บ้านบอกว่าบ้านของตนเขาซื้อขๅยทอดตลาดมาแล้ว ถ้าจะอยู่ต่อให้ซื้อคืนในราคา 800,000 บาท

ตนจึงบอกไปว่าไม่มีเงิน ทนายตั้มเลยบอกว่าจะช่วยเหลือขๅยให้ 300,000 บาท แต่ต้องภายในเดือนนี้ ไม่งั้นต้องจ่าย 500,000 บาท ตนเครียดมากไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาจนบางครั้งคิดสั้น ภรรยาจึงชวนให้มาร้องขอความช่วยเหลือจาก ทนายรณณรงค์

ขณะที่ นางอำไพ กล่าวว่า สามีไปเซ็นค้ำประกันโดยที่ตนไม่รู้เรื่อง และสามีก็ไม่รู้จักคนเช่าซื้อ บ้านไม้สองชั้นและที่ดิน 96 ตารางวาหลังนี้ เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษและเป็นชื่อของตน วันนี้ถูกขๅยทอดตลาดและต้องมาถูกไล่ออกจากบ้านทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเอง ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับและเสียใจมากที่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ต่อจากนี้ไปตน สามี ลูกชาย ลูกสะไภ้ และหลาน จะไปอยู่ที่ไหนกันก็ยังไม่รู้เลย

ด้าน นายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้มีทนายคอยดูแลอยู่แล้ว และมีการยื่นเรื่องคัดค้านการขๅยทอดตลาดตาม ป.วิฯ แพ่ง ในเรื่องของการส่งหมายที่ไม่มีการส่งหมายมาให้เจ้าของทรัพย์ทราบก่อน ส่วนในขั้นตอนการบังคับคดีหากเจ้าหนี้พบว่าลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกันมีอสังหาริมทรัพย์ ก็จะต้องตั้งเรื่องอายัดบังคับคดีทันที

ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่าจะค้ำประกันใครควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อน ไม่ใช้คิดแต่ว่าค้ำๆ ไปก็จะเกิดปัญหาเหมือนกับกรณีนี้ที่ลุงกับป้าจะต้องมาเสียบ้านที่อยู่มาทั้งชีวิต หลังจากนี้จะดูข้อกฎหมายว่าจะช่วยเหลือในเรื่องใดได้บ้าง

ต่อมา ทนายรณณรงค์ ได้ให้ นางอำไพ ต่อสายโทรศัพท์หา นายภาดา ผู้เช่าซื้อรถกระบะ ซึ่ง นายภาดา ได้กล่าวมาตามสายว่า กำลังหาเงินอยู่ แต่เงินจำนวนมากแบบนี้ และสภาวะที่เศรษฐกิจ ข้าวยากหมากแพงตนคงหาไม่ทัน นายสามารถ

จึงตอบสวนไปว่าทำไมตอนซื้อรถไม่เห็นพูดแบบนี้ ทำไมไม่สงสารตนกับภรรยาบ้างที่บ้านต้องมาถูกยึดเพราะไปค้ำประกันให้ทั้งที่ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ ทาง นายภาดา ได้แต่นิ่งอึ้งบอกเพียงว่าจะพยายาม ก่อนจะวางสายไป

แหล่งที่มา : khaosod.co.th, mgronline.com

เรียบเรียงโดย : baansuann.com