ครอบครัวใหญ่ ต้องสิ้นใจไปถึง 9 ชีวิต หลังกินบะหมี่ เป็นอาหารมื้อเช้า

วันนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ต้องบอเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความโศกเศร้าเป็นอย่างมาก เมื่อบะหมี่มรณะ ได้คร่าชีวิตครอบครัวใหญ่ ดับสลด 9 ราย จากอาหารเป็นพิម พบแช่วัตถุดิบในตู้แช่มาเกือบปี ก่อนนำมาทำกิน

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่ผ่าน เว็บไซต์ไชน่าเดลี่ และยาฮู นิวส์ รายงานว่า เกิดเหตุโศกนาฏกรรมขึ้นกับครอบครัวชาวจีน เมื่อมื้อเช้าแสนอร่อยของครอบครัวได้แปรเปลี่ยนมาเป็นมื้อมรณะ ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิមจนคร่าชีวิตสมาชิกในบ้านไปถึง 9 คนในเวลาไล่เลี่ยกัน

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม สมาชิกในครอบครัวใหญ่แห่งหนึ่งที่เมืองจีซี มณฑลเฮย์หลงเจียง ได้มารวมตัวกันพร้อมหน้าเพื่อทานมื้อเช้าที่ทำกินเองในบ้าน ซึ่งเมนูในวันนั้นก็คือก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนประกอบจากแป้งข้าวโพดหมัก เป็นอาหารท้องถิ่นที่รู้จักกันในชื่อ ซวนถังจือ (Suantangzi)

ครอบครัวดังกล่าวมีกันทั้งสิ้น 12 คน แต่เด็ก ๆ 3 คนไม่ยอมกินด้วย เพราะรู้สึกว่ารสชาติแปลก ๆ และไม่ชอบ จึงมีเพียงผู้ใหญ่ 9 คนที่กินอาหารดังกล่าว ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทั้ง 9 คนก็เริ่มแสดงอาการไม่สู้ดี และเกิดอาหารเป็นพิម ซึ่งมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้ 7 คนในกลุ่มนั้นเสีຍชีวิต

ผู้ที่รอดชีวิตอีก 2 คนเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามอีก 2 วันต่อมา หนึ่งในนั้นก็สิ้นใจ ตามมาด้วยผู้เสีຍชีวิตรายสุดท้าย เป็นหญิงวัย 47 ปี ที่จากไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2563

ด้านสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่น เผยว่า มีการตรวจพบสารพิម Bongkrekic acid ที่มีความเข้มข้นสูงอยู่ภายในก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว และของเหลวจากกระเพาะอาหารของผู้ที่เกิดอาการป่วຍ สารดังกล่าวถูกผลิตขึ้นจากแบคทีเรีย Pseudomonas cocovenenans และยังเป็นสาเหตุหลักของอาหารเป็นพิមที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ประเภทแป้งหมัก

เจ้าหน้าที่พบว่า วัตถุดิบที่นำมาปรุงก๋วยเตี๋ยวดังกล่าวนั้น ถูกเก็บไว้ในตู้แช่แข็งของครอบครัวมานานเกือบ 1 ปีแล้ว เกาเฟย ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัຍของอาหาร จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเฮย์หลงเจีย เผยว่า

อาหารเป็นพิមจาก Bongkrekic acid มักจะมีความรุนแรงถึงชีวิต เพราะสามารถก่อความเสียหายรุนแรงต่ออวัยวะของมนุษย์หลายส่วน รวมถึง ตับ ไต หัวใจ และสมอง และเขาก็ยังย้ำอีกว่า ในตอนนี้ยังไม่มียาต้านพิមโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อได้รับพิមเข้าไป อัตราการเสีຍชีวิตจึงสูงถึง 40-1oo% อีกทั้ง Bongkrekic acid ยังทนต่อการต้มในอุณหภูมิสูงด้วย

ด้านผู้เชี่ยวชาญแนะนำประชาชน ให้เลี่ยงการนำข้าวโพดที่ขึ้นราหรือแช่ทิ้งไว้ มาทำก๋วยเตี๋ยว และหากมันเริ่มมีกลิ่นเปลก ๆ หรือมีสีเป็นจุด ๆ ก็ไม่ควรนำมากินเช่นกัน ทั้งนี้ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสีຍชีวิตด้วยนะคะ และฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ชอบนำของที่เก็บไว้นานๆมาทำอาหาร อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

แหล่งที่มา: ไชน่าเดลี่ / ยาฮูนิวส์

เรียบเรียงโดย baansuann.com