ครอบครัวลงมติ บริจาคสมบัติ พิธีกรดัง อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี

หลังจากที่ อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี ได้จากไปอย่างสงบ เมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 2 ก.ค. 65 ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ในวัยที่ 57 ปี หลังจาก ป่ ว ย ด้วย โ ร ค ม ะ เ ร็ ง ต่ อ ม น้ำ เ ห ลื อ ง มานานกว่า 4 ปี

ทางครอบครัวของอิ๋งอิ๋งได้จัดพิธีทางศาสนาที่ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เพื่อประกอบพิธีรดน้ำเเละบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าสุดอาลัย

ก่อนเริ่มพิธีทางศาสนา อิ๋งอ้อย สิทธิวดี กิตติสิทโธ เเละ อุ๊อู๋ สิทธิภาณี กิตติสิทโธ น้องสาวของ อิ๋งอิ๋ง ได้เปิดใจให้สื่อมวลชนได้ฟังว่า

อิ๋งอ้อย : เมื่อเช้าเวลา 06.13 น. พี่อิ๋งค่อยๆ ดาวน์ลง เหมือนระบบร่างกายชัตดาวน์หยุดหายใจลงไปเอง พี่อิ๋งเข้า รพ.ตั้งเเต่วันที่ 6 มิ.ย. เขาปิดไม่อยากให้น้องตกใจ

พอเรารู้ก็ไปหาเขาที่ รพ.รามาฯ เขายังพูดได้ ทุกอย่างตอบรับ อาทิตย์ถัดมาคุณหมอบอกว่าอยากให้มาเซ็นเอกสารฉบับหนึ่งที่ รพ.ให้เซ็นว่าหนึ่งไม่ปั๊มหัวใจ เเละไม่ใส่ท่อไม่ทำอะไรเลย เรายังรู้สึกว่าพี่อิ๋งยังตอบรับได้ดีอยู่เลย

พอเริ่มตั้งเเต่วันที่ 20 ระบบร่างกายพี่อิ๋งเริ่มไม่ตอบรับ ถามอะไรก็เริ่มไม่ตอบรับถามพี่อิ๋งว่ารู้สึกมั้ยว่าระบบการตอบรับช้าลงเเต่เขาก็ยังตอบรับเราได้

เเต่พอหลังจากวันที่ 20 ถามอะไรพี่อิ๋งไม่ตอบรับเเล้ว เมื่อสองวันที่เเล้วสงสารเขาที่สุดเพราะว่ามือเขาไม่สามารถคอนโทรลอะไรได้เลย

มือคว้าสายออกซิเจนเเละกระชากออกบอกว่าไม่เอาเเล้ว จากที่พูดไม่ได้ เขาก็กระชากสายออกซิเจนออกเเละพูดว่าไม่เอาเเล้ว

พี่อิ๋งเป็นคนที่ทำบุญเยอะมาก วันสุดท้ายก่อนที่พี่อิ๋งจะไม่รู้เรื่องมีพระที่พี่อิ๋งนับถือจากภูทับเบิกขึ้นมาทำฟันที่กรุงเทพฯ

เราก็โทรหาครูบาร์ขอให้ท่านมาหาพี่อิ๋งซึ่งวันนั้นเป็นวันที่พี่อิ๋งไม่รู้สึกตัวเเล้ว ตอนที่ท่านมาก็บอกพี่เองว่าครูบาร์มานะ ขณะนั้นพี่อิ๋งก็ยกมือไหว้เเละบอกสาธุ

ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลพี่สาวได้สั่งเสียอะไรไว้บ้าง?

อิ๋งอ้อย : ตอนที่อยู่โรงพยาบาลก็ได้ถามว่าพี่อิ๋งอยากทำอะไรมั้ยถ้ามีอะไรให้บอกอ้อยได้เลยเดี๋ยวจะทำให้เขาบอกว่าเขาจะจัดการเองไม่เป็นไร

ก่อนหน้านี้เหมือนอิ๋งอิ๋งบอกว่าไม่อยากให้จัดงาน ศ พ เพราะไม่อยากให้ใครมาร้องไห้?

อิ๋งอ้อย : ใช่ค่ะ เเต่ด้วยร่างกายของพี่อิ๋ง เ ชื้ อ ม ะ เร็ ง เป็นไปหมดเเล้วดังนั้นร่างกายไม่สามารถบริจาคให้ใครได้ ตอนที่พี่ยังนอนรักษาตัวอยู่ต้องเจาะน้ำออกจากปอด เเต่ล่าสุดคุณหมอบอกว่าตอนนี้ ม ะ เ ร็ ง ได้เเทรกเข้าไปหมดเเล้ว ร่างกายให้ไปก็ไม่มีประโยชน์

ระยะในการรักษา โ ร ค ม ะ เ ร็ ง นั้นนานเเค่ไหน?

อิ๋งอ้อย : เมื่อสามปีที่เเล้วหลังจากนั้นทำคีโม 24 ครั้ง เขาต่อสู้กับ ม ะ เ ร็ ง มาเกินสามปีเพราะตอนที่เขารู้ว่าเขาเป็น ม ะ เ ร็ ง คือระยะที่สองเเล้ว จากนั้นเขาก็สู้มาโดยตลอด

เเต่ครั้งหลังเขาสู้ไม่ไหว เขาจะเข้ามาให้คีโมเเต่เม็ด เ ลื อ ด ข า ว ต่ำมากเเละไม่สามารถทำคีโมได้ต้องให้ เ ลื อ ด เพิ่ม พอให้ เ ลื อ ด เพิ่มพี่อิ๋งก็ไม่สู้เเล้ว

ได้บอกอะไรกับพี่สาวเป็นครั้งสุดท้ายบ้าง?

อิ๋งอ้อย : พี่อิ๋งถ้า เ ห นื่ อ ย ก็พัก พี่อิ๋งไม่สู้ก็ไม่เป็นไร ที่เหลืออ้อยกับน้องสาวจัดการให้เองไม่ว่าบริษัทหรือสิ่งต่างๆ ของพี่อิ๋งเราคุยกันไว้ตั้งเเต่ต้นเเล้วว่าทรัพย์สมบัติของพี่อิ๋งทั้งหมดอ้อยถามน้องสาวว่าเอามั้ย อ้อยก็บอกว่าอ้อยไม่เอา

เราทั้งสองคนเลยคุยกันว่าทรัพย์สมบัติของพี่อิ๋งทั้งหมดหลังจากที่เคลียร์ทุกอย่างเราจะบริจาคทั้งหมด เราได้ถามพี่อิ๋งก่อนหน้านี้ว่าเอาวัดมั้ย เพราะว่าเงินของพี่อิ๋งทรัพย์สมบัติทั้งหมดสามารถสร้างวัดได้เลยสิ่งที่พี่อิ๋งห่วงที่สุดตอนนี้คือห่วงเเมวทั้งสี่ตัว

พี่อิ๋งเคยพูดว่าเขาจะยกสมบัติทั้งหมดให้กับลูกอ้อยเเต่อ้อยบอกว่าอ้อยไม่รับเนื่องจากเรามีมือมีเท้ามีสมองทำไมเราต้องจ้องที่จะเอาเเต่สมบัติเขาเเละก็ไม่ภาคภูมิใจเลย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาใครเป็นคนดูเเลอิ๋งอิ๋ง?

อิ๋งอ้อย : ทางครอบครัวเป็นคนซัพพอร์ต มีอยู่ช่วงหนึ่งพาพี่อิ๋งไปอยู่กับอ้อยที่บ้านเเต่เขาก็หนีกลับบ้านเขาบอกมีโลกส่วนตัวเขาบอกกับญาติว่าเขาคิดถึงเเมว

เขาเป็นผู้หญิงที่สตรองมาก นาทีสุดท้ายเขาเจ็บ เขาก็ไม่ร้องเลย ไม่มี ร้องเจ็บโอดโอยเหมือนคนที่เป็น ม ะ เ ร็ ง ระยะสุดท้าย

ก่อนหน้าเนี่ยเหมือนมีข่าวว่าพี่น้องทะเลาะกัน?

อิ๋งอ้อย : พี่อิ๋งเคยบอกว่าทะเลาะกับอ้อย ต้องบอกว่าอ้อยกับพี่อิ๋งเราเป็นพี่น้องคลานตามกันมาเวลาเราเห็นพี่เจ็บพี่ล้มทำไมเราจะไม่ซัพพอร์ต เเม้กระทั่งวันที่เขามีปัญหา

พี่อิ๋งจะกลับไปอยู่คนเดียวเราก็บอกว่าไม่ได้ ต้องดึงมาอยู่กับเราเขาก็มาได้เเป๊บๆ ก็กลับไปอยู่คนเดียวเเละก็บอกกับญาติๆ ว่าสงสารเเมวคิดถึงเเมว

ทำไมตอนนั้นเเกถึงออกมาพูดอย่างนั้น น้อยใจ?

อิ๋งอ้อย : เเกน้อยใจ เเกคุยกับเราเเล้วเราก็บอกเเกว่าพี่อิ๋งความสุขสุดท้ายของพี่อิ๋งคิดเลย เพราะนาทีนี้เวลาพี่อิ๋งเหลือน้อย ให้ไปคิดให้ดีๆ อะไรที่มีความสุข อยากทำอะไรพี่ทำเลย ความสุขของพี่อยู่ตรงไหนไปตรงนั้น

เเกเพิ่งออกรายการว่ากลับมาคืนดีกับสามี?

อิ๋งอ้อย : ก็ไม่ได้กลับมาดูเเลนะคะ เหมือนเขาบอกว่าเขาคบกันเป็นกิ๊กเฉยๆ กลับมาก็เจอกัน ออกไปทานข้าว พี่อิ๋งก็ดูเเลตัวเอง เขาไม่ได้เข้ามาอยู่ในบ้าน

นาทีสุดท้ายของพี่อิ๋งจนวันนี้ เเม้กระทั่งพิธีนำ ศ พ  เเต่งหน้า ศ พ ก็พี่น้องนี่เเหละ ส่วนวันอื่นๆ เขาจะมามั้ยก็เเล้วเเต่เขา ตรงนี้เราทำให้พี่สาวเราอย่างดีที่สุด ส่งเขาให้มีความสุขที่สุด

เราก็ไม่ได้โกรธอดีตสามีพี่?

อิ๋งอ้อย : ไม่ได้โกรธ เขาโตเเล้ว มันคือความสุขของเขา ทุกคนมีครอบครัวเเยกกันไป เรารู้ความสุขของเราอยู่ที่ไหน ความสุขของพี่อิ๋งอยู่ตรงไหนพี่อิ๋งทำเลย

ตอนช่วงที่เเก ป่ ว ย เเกก็ยังทำงานเป็นพิธีกร?

อิ๋งอ้อย : ทำค่ะ อย่างลงเสียงพี่อิ๋งลงไม่ไหว เลยบอกว่าเสียงอ้อยคล้ายกับพี่เดี๋ยวอ้อยลงให้ เราก็ไปนั่งลงเสียงให้เขา การเป็นพิธีกรเป็นความสุขของเขาที่สุดเลย รายการโชคดีนาทีทองเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิตเขา

เขาเคยบอกว่าในช่วงชีวิตการเป็นพิธีกรของเขา รายการโชคดีนาทีทองเป็นช่วงเเห่งความสุขของเขา เป็นสิ่งที่ทำให้วันนี้เขายังสู้อยู่ เขาบอกเลยว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวเขาจะมาลงเสียงเอง เดี๋ยวเขาจะไปหาลูกค้าเอง

งานของพี่อิ๋งยังรับผิดชอบอยู่มีอะไรบ้าง?

อิ๋งอ้อย : มีรายการสั้นที่เเกยังทำอยู่ รายการคนไทยไม่ใส่จริต เขาเป็นคนที่ทำนุบำรุงศาสนา บางครั้งในเนื้อรายการไม่ได้มีสปอนเซอร์ซัพพอร์ต เเต่เเกก็ทำ เพื่อให้คนดูบริจาคมาช่วยเหลือวัด

มีอะไรที่เเกอยากให้เราสานต่อบ้างมั้ย?

อิ๋งอ้อย : มีลูกค้าที่อยากจะให้ทำ เราก็ดูอยู่ว่าเราจะสานต่อได้ยังไงบ้าง เพราะตัวอ้อยเองก็ทำธุรกิจอยู่กับสามี เเต่เราก็จะมาดูว่าอะไรที่เราทำได้เราก็จะช่วยทำ

ในส่วนของบริษัทตอนนี้ของเราเบรกไป ด้วยสปอนเซอร์ค่อนข้างหายากมาก เเต่ถ้าสปอนเซอร์คนไหนอยากจะซัพพอร์ตมาเลยค่ะ

เราพร้อมทำ พี่อิ๋งเป็นคนที่รักลูกน้องมาก เเกมีลูกน้อง 10 คน ช่วงโควิดหลายบริษัทลดเงินเดือนเเต่พี่อิ๋งไม่เคยลดเลย จ่ายเต็มอยู่เหมือนเดิม

สำหรับอัฐิจะตั้งใจไว้อย่างไรบ้าง?

อิ๋งอ้อย : จะเอาไปลอยที่คุณพ่อกับคุณเเม่ พื้นเพเเกเป็นคนจังหวัดกระบี่ เราก็จะเอาอัฐิไปลอยรวมกับคุณพ่อคุณเเม่ที่กระบี่

มีฝันถึง?

อิ๋งอ้อย : ไม่มี ก่อนที่พี่อิ๋งจะเสียพวกเราก็ไปนั่งเฝ้าเเกที่โรงพยาบาล พยาบาลก็บอกว่ากลับไปก่อนค่ะเพราะตอนนี้ความดันพี่อิ๋งยังดีอยู่ คงยังไม่ตกวูบไปเลย เดี๋ยวถ้าค่อยๆ เขยิบลงจะโทรเรียก ก็ซ้อมมาหลายรอบตั้งเเต่อาทิตย์ที่เเล้ว

พอโรงพยาบาลสั่งมาเลยค่ะเราก็ไป เเต่พี่อิ๋งก็โอเค กลับมาดีขึ้น พอเมื่อวานโรงพยาบาลบอกกลับเลยค่ะ เดี๋ยวตอนเช้ามาใหม่

พอ 06.06 น. พยาบาลโทรเข้ามา บอกว่าให้รีบมาเดี๋ยวนี้ เเล้วพี่อิ๋งก็ไปเลย พวกเราไปไม่ทัน เเค่ไม่ถึง 7 นาทีที่โทรหาเราพี่อิ๋งก็สวิตช์ก็ดับไปเลย

เราก็ถามหมอว่าถ้าปั๊มขึ้นมาพี่อิ๋งสามารถมีชีวิตอยู่ได้มั้ย หมอก็บอกว่าไม่ได้เเล้ว ไม่มี ก็เป็นวาระสุดท้ายของเขาจริงๆ ระบบมันค่อยๆ พังไปทีละระบบ ปัสสาวะก็ไม่ถ่ายเเล้ว น้ำในปอดก็ไม่ออกเเล้ว เเต่เขาก็ไม่ร้อยนะคะ

ทำใจไว้มั้ย?

อุ๊อู๋ : ทำใจตั้งเเต่อาทิตย์ที่เเล้ว เเกส่งสัญญาณมาตั้งเเต่เสาร์ที่เเล้ว เเกไม่ทุรนทุรายอะไรเลย เเกจากไปอย่างสงบ

เเมวใครจะดูเเลต่อ?

อิ๋งอ้อย : เเมวก็ยังอยู่บ้านที่ออฟฟิศ พี่อิ๋ง มีเด็กๆ ดูเเลอยู่

เรื่องวัดที่ตั้งใจจะทำกุศลให้พี่สาวมันจะเป็นไปได้?

อิ๋งอ้อย : เป็นไปได้ค่ะ หลังจากนี้เราจะตั้งพี่อิ๋งเป็นมูลนิธิขึ้นมาก่อน เเล้วก็จะใช้เงินส่วนนี้ในการทำนุบำรุงศาสนา เพราะพี่อิ๋งเขาย้ำมาเลย

เราถามพี่อิ๋งเอาวัดมั้ย เขาพยักหน้า เขาเอา เเต่จะเป็นตรงไหนก็เเล้วเเต่บุญวาสนาเขาพาไปเลยนะ ถ้าเรามีเงินก้อนนี้ของพี่อิ๋งขึ้นมาปุ๊บ เขาต้องได้

แหล่งที่มา thairath

เรียบเรียงโดย baansuann.com