ครอบครัว 5 ชีวิตร่ำไห้ กลายเป็นคนไม่มีที่อยู่ ซื้อที่ดินปลูกบ้าน จู่ ๆ ถูกฟ้องไล่พร้อมใช้ค่าเสียหาย 4 แสน

วันนี้เราจะมาติดตามกรณี เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 63 ได้มีรายงานว่ามีชาวบ้านร้องเรียนว่ามีครอบครัว 5 ชีวิต กลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัยและจะต้องชดใช้ค่าเสียหายอีกร่วม 400,000 บาท ทั้งที่เป็นที่ดินและบ้านของตัวเองที่ซื้อมากับมือ

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 8 ต.หนองไชยศรี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นของ นางดวงเดือน ลุนสำโรง อายุ 48 ปี พบว่ากำลังรื้อถอนนำวัสดุโครงสร้างของบ้านออกจากพื้นที่

นางดวงเดือน ยังนำหลักฐานเป็นโฉนดที่ดินเนื้อที่ 1 งาน 23 ตารางวา ระบุชื่อชายคนหนึ่งในโฉนดเจ้าของที่ดิน นางดวงเดือน เล่าว่า ตนซื้อที่จากเจ้าของจำนวน 1 แปลง จากทั้งหมด 7 แปลงที่เขาแบ่งล็อกขๅย โดยทำสัญญาซื้อขๅยกันไว้เมื่อปี 2547 ในราคา 22,000 บาท และจ่ายเงินให้ครบถ้วน

ต่อมาประมาณ 1 ปี เจ้าของนำโฉนดมาให้หลังแบ่งแยกเป็นแปลงออกมาได้ พร้อมกับบอกว่า ไปโอนตอนไหนก็ได้ เพราะโฉนดอยู่กับตัวเอง

ตนกับสามีจึงใจเย็น หาเงินได้ค่อย ๆ สร้างบ้านที่ละนิดมาตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ต่อมาลูกสาวซึ่งไปทำงานต่างจังหวัดแยกทางกับสามี แล้วนำลูกมาให้เลี้ยงอีก 3 คน อายุ 5 ปี 4 ปี และ 1 ปีครึ่ง

จากนั้นเมื่อปี 2560 ตนพอมีเงินค่าโอนที่ดิน จึงแจ้งเจ้าของที่เดิมไปสำนักงานที่ดิน อ.หนองหงส์ เพื่อจะโอนที่ดินให้แล้วเสร็จ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งว่า ที่ดินถูกอายัดแล้ว ไม่สามารถโอนได้ สอบถามเจ้าของที่ก็บอกว่าไม่รู้เรื่อง

กระทั่งเดือนเมษายน 2561 มีหมายจากสำนักงานทนายความแห่งหนึ่ง โดยระบุข้อความว่า ให้ออกจากพื้นที่ภายใน 7 วัน ตนยอมรับว่าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ครอบครัวรวม 5 ชีวิตได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะไปอาศัยอยู่กับญาติ ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กเช่นกัน จึงอยากจะให้ผู้รู้มาแนะนำหาแนวทางช่วยเหลือ เพราะอยากได้บ้านคืน

ขณะที่ น.ส.ชัดริญา แก้วสลักศรี อายุ 35 ปี ชาวบ้านต.หนองไชยศรี ออกมาระบุ หลังจากอ่านเอกสารของศาลจังหวัดนางรอง อ.นางรอง ระบุเนื้อหาจะต้องชดใช้ให้กับทนายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินจากสำนักงานบังคับคดีมา

โดยเรียกค่าเสียหายที่มาอยู่ในที่ดินคนอื่นเป็นเงินกว่า 70,000 บาท และเป็นค่าล่วงละเมิดอีกกว่า 300,000 บาท (ไม่รวมดอกเบี้ยอีก 7.5 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่วันฟ้อง)

น.ส.ชัดริญา กล่าวว่า ตนเคยโทรศัพท์ประสานทนายคนที่ที่ประมูลที่ดินได้ ว่าถ้าจะขอซื้อคืนจะขๅยเท่าไหร่ ได้รับคำตอบจากทนายว่า ต้องจ่ายค่าเสียหายมาทั้งหมดก่อนคือประมาณ 400,000 บาท แล้วค่อยมาว่ากันเรื่องซื้อคืน

จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เจ้าของที่ดินเดิมไปกู้เงินนอกระบบ แล้วถูกฟ้องจนมีการสืบทรัพย์ และพบว่ามีที่ดินแปลงนี้ จึงขๅยทอดตลาดตามกระบวนการ ก่อนทนายจะมาประมูลได้ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือทำไมทนายต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายกับคนยากจน ที่ไม่มีแม้เงินซื้อนมให้หลาน

แหล่งที่มา: siamstreet

เรียบเรียงโดย baansuann.com