วันนี้เราจะมาติดตามกรณีที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.เชียงราย กรมควบคุมโรคติดต่อ ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สาย จ.เชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมตัวและสอบสวนผู้ต้องหา 4 คน เป็นหญิง 3 คน และชาย 1 คน คือ
1. น.ส.นิราวรรณ์ อายุ 29 ปี ชาว จ.นครราชสีมา
2. น.ส.นงนุช อายุ 28 ปี ชาว จ.สกลนคร
3. น.ส.กนกพร ชาว จ.นครราชสีมา
4. นายภัทรภรณ์ อายุ 28 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช
ซึ่งทั้งหมดเคยทำงานที่คาราโอเกะแห่งหนึ่ง ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และลักลอบข้ามลำน้ำเมย เพื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย บริเวณท่าข้ามโดยผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 63 จากนั้นวันที่ 26 พ.ย. 63 เดินทางมาเที่ยวอ.แม่สาย จ.เชียงราย และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.แม่สาย
โดยหญิง 2 คน ถูกควบคุมตัวที่ด่านกิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ขณะเดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศแม่สาย – กรุงเทพมหานคร ปลายทางคือพัทยาใต้ จ.ชลบุรี ชายและหญิง อีก 2 คนถูกควบคุมตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สาย
โดยทั้งหมดจึงถูกดำเนินคดีในข้อหา ไม่เดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร ตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าและสถานี หรือท้องที่ที่กำหนด ตามพระราชบัญญัติตรวจคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 11 เจ้าหน้าที่นำตัวส่งเข้าสถานที่กักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เพื่อตรวจโรคต่อไป จากการตรวจคัดกรองในเบื้องต้นแล้วไม่มีไข้
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานการลักลอบข้ามชายแดนเข้าออก โดยพบว่า 1 ใน 4 คน ถ่ายภาพโพสต์โชว์ในเฟซบุ๊กของตัวเอง ขณะที่ลักลอบเดินป่าในช่องทางธรรมชาติ ข้ามแม่น้ำเมยพร้อมกับโพสต์ท่ายิ้ม ชู 2 นิ้ว ขณะที่หอบข้าวของเดินในป่าและโพสต์ข้อความว่า” วัน 1 ฉันเดินเข้าป่าข้ามแม่น้ำมาจ๊ะเอ๋เมืองไทย” ซึ่งจากภาพเหมือนไม่สะทกสะท้านการกระทำที่ผิดกฎหมายเลย
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พบกลุ่มคนไทยส่วนใหญ่เป็นหญิงสาวที่ลักลอบข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านช่องทางธรรมชาติเพื่อไปทำงานในผับและร้านคาราโอเกะ โดยมีขบวนการนำพาคมเหล่านี้ลักลอบเข้าออกประเทศ มีรายงานว่ามีค่าใช้จ่ายต่อหัวเที่ยวละ 5,000-20,000 บาท
และส่วนหนึ่งอาจจะมีชาวไทยในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทางป่าเขา และหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่เป็นผู้จัดหาและนำพาคนเหล่านี้ เพื่อกินค่าหัว
แหล่งที่มา: กองกำลังผาเมือง / mgronline
เรียบเรียงโดย baansuann.com
